แก่งสะพือ อำเภอพิบูลมังสาหาร
แก่งสะพือ
แก่งสะพือ เป็นแก่งหินที่สวยงามในแม่น้ำมูล
ตั้งอยู่ในตัวอำเภอพิบูลมังสาหาร ห่างจากตัวเมืองอุบลราชธานี ตามทางหลวงหมายเลข
217 ประมาณ 45 กิโลเมตร คำว่า สะพือ เพี้ยนมาจากคำว่า ซำฟืด หรือ ซำปึ้ด
ซึ่งเป็นภาษาส่วยแปลว่า งูใหญ่ หรืองูเหลือม เป็นแก่งที่มีหินน้อยใหญ่สลับซับซ้อน
เมื่อกระแสน้ำไหลผ่านกระทบหิน เกิดเป็นฟองขาวมีเสียงดังตลอดเวลา
โพสต์ทิพย์, เว็บไซต์โฆษณา, เว็บไซต์ขายสินค้า, สินค้าราคาถูก, โรงแรม, ที่พัก, ร้านอาหาร, เทคโนโลยี, พัฒนาเว็บไซต์, SEO, การศึกษา, พระเครื่อง, สินค้ามือสอง, ของโบราณ, วัตถุมงคล,วัตถุโบราณ
ช่วงที่เหมาะสำหรับเที่ยวชมแก่งสะพือ คือหน้าแล้ง ราวเดือนมกราคม-พฤษภาคม เพราะน้ำจะลดเห็นแก่งหินชัดเจนสวยงาม ส่วนหน้าฝนน้ำจะท่วมมองไม่เห็นแก่ง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เคยเสด็จพระราชดำเนินมาชมแก่งนี้ 2 ครั้ง ริมฝั่งแม่น้ำมีศาลาพักร้อน และร้านขายสินค้าพื้นเมือง ในวันหยุดมีประชาชนมาเที่ยวพักผ่อนกันเป็นจำนวนมาก
นอกจากนี้แล้วในเดือนเมษายนของทุกปี ช่วงเทศกาลสงกรานต์ มีการจัดงานประเพณีสงกรานต์แก่งสะพือ เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวและประเพณีอันดีงามด้วย
เดินทางสู่แก่งสะพือ
เดินทางสู่แก่งสะพือ เดินทางเที่ยวอุบล วันนี้แนะนำที่เที่ยวในอำเภอพิบูลมังสาหาร จากเมืองอุบลใช้เส้นทางมุ่งหน้าโขงเจียม ก่อนจะข้ามสะพานแม่น้ำมูล ลองใช้เส้นทางเลียบแม่น้ำมาเรื่อยๆ แล้วจะเห็นป้ายบอกทางไปแก่งสะพือ เลี้ยวเข้าไปนิดหน่อยเราก็จะเห็นถนนเล็กๆ มีร้านค้ามากมายหลายร้านนี่แหละถึงแล้ว ที่จอดรถของคนจะมาเที่ยวแก่งสะพือ
ศาลาชมวิว
ศาลาชมวิว เดินเข้ามาตามแนวร้านค้า เส้นทางนี้จะมาสุดที่ริมแม่น้ำมูล เป็นสวนสาธารณะริมน้ำ ประกอบด้วยศาลาชมวิวแห่งนี้ที่จะเป็นที่พักผ่อนรับลมเย็นๆ มองทิวทัศน์ของแก่งหินกลางน้ำ ส่วนอีกด้านหนึ่งเป็นสวนที่ร่มรื่น เต็มไปด้วยต้นไม้ใหญ่ เหมาะสำหรับการปูเสื่อปิคนิค เพราะมีร้านอาหารหลายร้าน เมนูปลาแม่น้ำ เป็นอาหารแนะนำ
แก่งสะพือ
หน้าที่หลักอย่างหนึ่งของที่นี่ก็คือสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ เป็นที่ลงเล่นน้ำของทั้งเด็กและผู้ใหญ่ นักเรียนในพื้นที่ใกล้เคียงใช้เป็นที่ศึกษาหาความรู้ ในฤดูแล้งที่นี่จะเห็นแก่งหินจำนวนมากในยามน้ำมากมองไม่เห็นหินค่อนข้างอันตราย กลางแม่น้ำเราก็เลยเห็นแท่งปูนขนาดใหญ่รูปสี่เหลี่ยมน่าจะสร้างพร้อมๆ กับที่แก่งตะนะ สมัยการล่าอาณานิคมของฝรั่งเศส อีกฟากหนึ่งของแม่น้ำเป็นโรงแรม
แก่งสะพือ
อีกหน้าที่หนึ่งของที่นี่ก็คือเป็นแหล่งทำมาหากินคือการจับสัตว์น้ำ เพราะแก่งหินเหล่านี้นับเป็นที่อยู่ที่สงบที่สุดสำหรับฝูงปลาท่ามกลางกระแสน้ำเชี่ยวของแม่น้ำมูล และเมื่อมีปลามากก็ต้องมีผู้ล่ามากตามไปด้วย ปลาที่จับได้ส่วนหนึ่งก็จะมาอยู่ที่ร้านอาหารริมแก่งสะพือนี่เอง รอให้เราเข้าไปสั่งมากิน
แท่งปูนบอกร่องน้ำ
แท่งปูนบอกร่องน้ำ นี่ก็คือแท่งปูนที่บอกไปแล้วว่าน่าจะเกิดขึ้นตั้งแต่สมัยฝรั่งเศสล่าอาณานิคมคงเหลือไว้เป็นอนุสรณ์
สัญลักษณ์การเสด็จพระราชดำเนินฯ
สัญลักษณ์การเสด็จพระราชดำเนินฯ สิ่งหนึ่งที่เราจะเห็นอยู่กลางลานกว้างๆ ตรงทางลงแก่งสะพือ จารึกเรื่องราวพระราชกรณียกิจอันยังความปลาบปลื้มปีติ มายังชาวพิบูลมังสาหาร การเสด็จพระราชดำเนินเยี่ยมเยือนพสกนิกรในถิ่นทุรกันดาร ชาวพิบูลมังสาหารจึงสร้างหินจารึกไว้ที่นี่ รอบๆ แผ่นหินทำที่คล้องกุญแจคู่ เป็นสัญลักษณ์แห่งความรักของหนุ่มสาวตามความเชื่อแบบเกาหลีที่เข้ามาเป็นที่นิยมในไทยหลายแห่งด้วยกัน
วัดสระแก้ว
วัดสระแก้ว ทางลงไปแก่งสะพือเป็นกึ่งถนนกึ่งตลาดขายของอย่างที่เห็นในรูปก็เรียกกันว่าถนนสระแก้ว ที่นี่เป็นที่ตั้งของวัดที่ชื่อสระแก้วเหมือนชื่อถนน มองจากถนนลอดประตูวัดเข้ามาจะเห็นพระพุทธรูปปางนาคปรกองค์ใหญ่ประดิษฐานอยู่ตรงกับประตูเข้าโบสถ์พอดีเลย
ศาลาพระเจ้า 5 พระองค์
ศาลาพระเจ้า 5 พระองค์ เป็นศาลาที่อยู่ด้านข้างของพระพุทธรูปปางนาคปรก ที่นี่ประดิษฐานพระพุทธรูป 5 องค์ด้วยกัน เรียกกันว่าพระเจ้า 5 พระองค์ ซึ่งหมายถึงพระพุทธเจ้าทั้ง 5 พระองค์นั่นเอง ส่วนอีกองค์ที่อยู่ริมด้านข้างของศาลาคือพระพือ เดี๋ยวจะพาเข้าไปไหว้ขอพร ในฐานะที่มาเที่ยวแก่งสะพือ