พระพุทธชินราช เนื้อผง รุ่น " ปิดทอง ๔๗ "

พระพุทธชินราช ( เนื้อผง ) พิมพ์หยดน้ำ รุ่น " ปิดทอง ๔๗ " ออกวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ ( วัดใหญ่ ) จ.พิษณุโลก วันที่ 17 พฤศจิกายน 2547




: รายละเอียด :

ความศักดิ์สิทธิ์อภินิหารของพระพุทธชินราช หรือ หลวงพ่อพระพุทธชินราช หรือ หลวงพ่อใหญ่ ที่ชาวพิษณุโลก เรียกกันจนติดปาก มีอยู่มากมายเหลือคณานับ อย่างเช่น ในรัชสมัย พระบาทสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ทุกครั้งที่พระองค์จะเสด็จออกทำศึกสงคราม พระองค์จะเสด็จเข้าไปในวิหารทรงกราบไหว้อธิษฐานขอพรจากความศักดิ์สิทธิ์ของพระพุทธชินราช ขอให้ทรงมีชัยชำนะศึกต่ออริราชศัตรูของแผ่นดิน และก็เป็นดั่งคำอธิษฐานขอพรจากความศักดิ์สิทธิ์ของพระพุทธชิราช พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระนเรศวรมหาราชทรงมีชัยชำนะศึกทุกครั้ง เมื่อเสด็จกลับสู่เมืองพิษณุโลก พระองค์ก็ทรงนำเครื่องทรงที่มีชัยชำนะศึกถวายเป็นเครื่องสักการะ แด่พระพุทธชินราชเสมอมา

ส่วนพุทธศาสนิกชนตั้งแต่อดีตกาลจนถึงปัจจุบันนี้ ไม่ว่าจะอยู่ใกล้หรืออยู่ไกล ก็ยังพากันไปกราบไหว้บูชาพระพุทธชินราชด้วยความศรัทธา บางคนมีความทุกข์ร้อนในใจไม่ว่าจะเป็นเรื่องของครอบครัว การงาน หรือค้าขาย ต่างก็ได้บนบานศาลกล่าวอธิษฐานขอพรที่ปรารถนา แล้วก็เหมือนความอัศจรรย์ที่ไม่เชื่ออย่าลบหลู่ คำบนบานศาลกล่าวอธิษฐานขอพรต่างก็ประสบความสำเร็จไปตามๆ กันและก็มีประสบการณ์ให้เห็นอยู่ทุกวัน กับการแก้บนในวิหารพระพุทธชินราช

พระพุทธชินราช เป็นพระพุทธรูปที่มีพุทธลักษณะที่สวยงาม เด่นสง่าที่สุดของประเทศไทย เป็นพระพุทธรูปศิลปะสุโขทัยผสมผสานกับศิลปะเชียงแสนอย่างลงตัว นับได้ว่าเป็นประติมากรรมชั้นสูงสุดแห่ง " พุทธศิลป์ "

ในการสร้างพระพุทธชินราช จากหลักฐานของหนังสือพงศาวดารของทางเหนือได้เขียนกล่าวยืนยันเอาไว้ว่าในปีพุทธศักราช 1500 หรือ จุลศักราช 319 เมื่อพระเจ้าศรีธรรมไตรปิฏก หรือ พระธรรมราชาลิไท ได้สร้างวัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหารเสร็จสมบูรณ์เรียบร้อยแล้ว พระองค์ทรงพระประสงค์จะทรงสร้างพระพุทธรูปขึ้นเป็นจำนวน 3 องค์ และพระองค์ก็ได้ช่างฝีมือดีที่เป็นพราหมณ์มา 5 คน มาเป็นแม่งาน พร้อมทั้งได้ทรงหาช่างฝีมือเอกจากเมืองศรีสัชนาลัย สวรรคโลก เมืองเชียงแสน และเมืองหริภุญชัย มาร่วมช่วยกันหล่อพระพุทธรูปทั้ง 3 องค์ คือ พระพุทธชินราช พระพุทธชินสีห์ พระศรีศาสดา

พระพุทธชินราช เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย ขนาดหน้าตักกว้าง 5 ศอก 1 คืบ 5 นิ้ว สร้างจากโลหะเนื้อสัมฤทธิ์ลงน้ำรัก ปิดทอง103 ปีของมวลสารศักดิ์สิทธิ์ พระพุทธชินราชจำลองรุ่น " ปิดทอง "


องค์พระพุทธชินราชที่สร้างด้วยเนื้อโลหะทองสัมฤทธิ์ ลงน้ำรัก ปิดทอง เมื่อเนิ่นนานวันก็มีการชำรุดเกิดขึ้นซึ่งเป็นหลักของธรรมชาติ เมื่อมีการชำรุด ก็ต้องมีการซ่อมแซมใหม่ถึง 3 ครั้ง

ครั้งที่ 1
ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระเอกาทศรถ ประมาณในพุทธศักราช 2149 ถึง 2151

ครั้งที่ 2
ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 5) เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม พุทธศักราช 2444

ครั้งที่ 3
ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช (รัชกาลที่ 9) เมื่อวันที่ 6 กรกฏาคม 2547

เนื้อแผ่นน้ำรักและทองที่ลอกออกจากองค์พระพุทธชินราช ที่ได้ปฏิสังขรณ์ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 5) ตั้งแต่ปี พ.ศ.2444 มีอายุมาถึง ณ วันนี้ 103 ปี

103 ปีก็ได้ซึมซับรับเอาความศักดิ์สิทธิ์จากองค์พระพุทธชินราชไว้อย่างเต็มเปี่ยม และยังได้รับเอาพลังจิตจากพระเกจิทั่วประเทศ หลายยุคหลายสมัยที่ได้นั่งอธิษฐานปลุกเสกวัตถุมงคลจนนับครั้งไม่ถ้วน ล้วนเป็นความศักดิ์สิทธิ์ที่เกิดขึ้นในตัวเองของแผ่นน้ำรัก และทองที่ลอกออกมา

พระเทพรัตนกวี เจ้าอาวาสรูปปัจจุบันวัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร จึงได้นำแผ่นน้ำรักและทองอันศักดิ์สิทธิ์ที่ลอกออกจากองค์พระพุทธชินราช มาบดทำเป็นมวลสารเอก สร้างพระพุทธชินราชจำลอง รุ่น " ปิดทอง " ทั้งเนื้อผงและเนื้อโลหะ ผสมรวมกับเนื้อผงว่าน 200 ชนิด อาทิ ว่านตระกูลกวัก ว่านตระกูลเสน่ห์จันทร์ ว่านตระกูลเศรษฐี ว่านโกเมน ว่านเครือสาวหลง ว่านเงินไหลมา ว่านญาณรังษี ว่านถุงเงินถุงทอง ว่านทองไหลมา ว่านธรรมรักษา ว่านพญาหงษ์ทอง ว่านนเรศวร ว่านน้ำเต้าทอง ว่านปัดตลอด ว่านเพชรกลับดำ ว่านเพชนหลีก ว่านมงคลชัย ว่านวาสนาทางลาย ว่านสาลิกาลิ้นทอง ว่านค้ำคูณ ว่านนางคุ้ม ว่านสาวหลง ว่านเหล็กไหล ฯลฯ และผงเหล็กน้ำพี้ ผงกัลปังหาเนื้อแดง-ดำ

พระพุทธชินราชจำลองรุ่น " ปิดทอง " จึงเป็นวัตถุมงคลรุ่นประวัติศาสตร์และอมตะของ วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร ที่สร้างด้วยเนื้อแผ่นน้ำรักและทองที่ลอกจากองค์พระพุทธชินราชเป็นครั้งแรกและครั้งเดียว และอีกใน 100 ปี ภายภาคหน้า ยังไม่รู้ว่าจะมีการสร้างเยี่ยงนี้อีกหรือไม่


พิธีมหาพุทธาภิเษก

เพิ่มความศักดิ์สิทธิ์ อันเป็นสิริมงคล 9 วัน 9 คืน เริ่มตั้งแต่ วันที่ 17-18-19-20 (เว้น 21) 22-23-24-25-26
พฤศจิกายน 2547 (ตรงกับวันเพ็ญ ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 12) ณ วิหารพระพุทธชินราช วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร

วัตถุประสงค์ในการจัดสร้าง เพื่อสมทบทุนสร้างอาคาร มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย จ.พิษณุโลก
Share: